ALBUM: Hell Freezes Over
ARTIST: Eagles
LABEL: 1994 Geffen Records (GED 24725)
SONG : 8 SOUND : 6
แผ่นทอง Limited Edition 24 Bit Remastered - ผลิตในไทย
.jpg)
LABEL: 1994 Geffen Records (GEFD 24725)
SONG : 8 SOUND : 8
แผ่นธรรมดา - ผลิตในอเมริกา
ผมเจอซีดีแผ่นนี้วางขายในร้านขายแผ่นร้านเล็กๆ แถวพระโขนง เกิดสะดุดตาตรงซองกระดาษที่พิมพ์ไว้ว่าเป็นแผ่น Limited Edition หมายถึงว่าทำออกมาเป็นพิเศษมีจำนวนจำกัด และยังพิมพ์ระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นแผ่นที่ผ่านการรีมาสเตอร์มาด้วย พลิกไปดูหลังกล่องดันมีเลข Serial No. เป็นเบอร์ประจำแผ่นพิมพ์กำกับไว้ชัดเจนซะด้วยแถมเด็กที่ร้านยังบอกว่าเนื้อในเป็นแผ่นทองนะเพ่.. ราคาขายแค่สามร้อยกว่าบาทถูกกว่าแผ่นธรรมดาของอเมริกาที่ผมซื้อไว้เมื่อหลายปีก่อนซะอีกแน่ะ..
ต้องรีบตะครุบล่ะครับ ของดีๆ ราคาถูกอย่างนี้หาได้ไม่บ่อยนะจะบอกให้ แผ่นที่ผมซื้อมาเป็นแผ่นที่ 07132 ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะสิ้นสุดแผ่นสุดท้ายที่จำนวนเท่าไร
กลับมาบ้านรีบแกะซองออกมาดูเนื้อแผ่นก่อนเป็นอันดับแรก เห็นปกแผ่นข้างในแล้วแทบช็อค..!เพราะบนปกแผ่นที่เป็น Booklet ข้างในนั้นมีลายเซ็นชื่อของนักดนตรีทั้ง 5 หน่อของดิ อีเกิ้ลพิมพ์หราอยู่เป็นลายเส้นสีทองสวยงามมาก เปิดออกมาดูเนื้อแผ่นก็ต้องร้องโอ้โห.. อีกทีเพราะเป็นแผ่นทองจริงๆ ซะด้วย แม้ว่าจะไม่ถึงกับเหลืองอร่ามแต่ก็ดีกว่าแผ่น 18 เค. ของ Denon ที่เคยเห็น สงสัยจริงๆ ว่าเขาขายได้ยังไงกันไม่ถึงสี่ร้อยบาท ข้างในผมพบคูปองชิงโชค 2 ใบสำหรับเขียนชื่อส่งไปชิงกีต้าร์โปร่งและเสื้อยืดของดิ อีเกิ้ลส์ ที่แท้ก็เป็นโปรโมชั่นของบริษัท Universal Music ต้นสังกัดอัลบั้มชุดนี้นี่เอง..
ตัวแผ่นซีดีเข้าใจว่าน่าจะผลิตในประเทศไทยเพราะสังเกตดูงานเคลือบแล็คเกอร์ด้านข้อมูลเพลงพบรอยด่างดวงเบ้อเริ่ม แต่โดยรวมก็ออกมาน่าพอใจ แม้ว่าคุณภาพการสกรีนตัวหนังสือบนแผ่นก็ยังไม่ดีเท่าของอเมริกาแต่ก็อยู่ในระดับที่ให้อภัยได้
และแล้วความรู้สึกดีๆ ก็มาพังทลายลงเอาอีตอนทดลองฟังเสียงนี่เอง..!!
ผมไม่คาดหวังอะไรกับแผ่นนี้มากเท่ากับคำว่า 24 Bit-Remastered ที่พิมพ์อยู่บนซองกระดาษเลย แต่เสียงที่ได้ยินออกมานั้นมันไม่ดีอย่างที่คาดไว้แม้แต่น้อย ถ้ามีการรีมาสเตอร์กันจริงๆ ก็นับว่าคนรีมาสเตอร์งานชุดนี้ฝีมือห่วยมาก..! ผมฟังเทียบกับแผ่นธรรมดาที่ผลิตในอเมริกา (เบอร์แผ่น GEFD-24725) แล้วปรากฏว่าสู้ไม่ได้เลย ทีแรกที่ผมฟังแผ่นทองแผ่นนี้รู้สึกว่าเหมือนกับให้เสียงที่โปร่งใสกว่าแผ่นอเมริกาที่ผมมีอยู่ แต่พอฟังไปฟังมาชักรู้สึกทะแม่งๆ มากขึ้นทุกที เมื่อทำการฟังเปรียบเทียบชนิดเพลงต่อเพลง ประโยคต่อประโยคเป็นเวลานานจึงพบว่าแผ่นทองให้เสียงที่มีมวลเนื้อบางกว่าอย่างชัดเจน ฟังออกชัดเจนที่เสียงทุ้มที่แผ่นทองให้ออกมานั้นแทบจะขาดน้ำหนักของเสียงทุ้มต่ำๆ ลงไปเลย ลองฟังเพลง Hotel California แทรคที่ 6 ตอนขึ้นต้นซึ่งมีเสียงเบสและกลองหนักๆ ลงความถี่ต่ำๆ นั้น แผ่นทองให้เสียงที่ลอยและให้มวลคลื่นความถี่ต่ำบางเบามาก ผิดกับแผ่นอเมริกาที่ให้เสียงทุ้มที่มีมวลอิ่มและเข้มกว่า แถมยังมีพลังและให้น้ำหนักที่แน่นกระชับเป็นลูกๆ มากกว่ากันอย่างเห็นได้ชัด
สิ่งที่แผ่นทองดูเหมือนจะดีกว่าแผ่นธรรมดาอยู่บ้างก็น่าจะเป็นรายละเอียดในย่านสูงที่ให้ตัวตนที่เด่นชัดและมีมวลเนื้ออิ่มเข้มมากกว่าแผ่นอเมริกาเล็กน้อย แต่นอกจากนั้นแล้วสู้แผ่นอเมริกาไม่ได้เลยในทุกกรณี แผ่นอเมริกาให้การย้ำเน้นหนักเบาที่เป็นขั้นเป็นตอนมากกว่า และให้สีสันดนตรีที่มีจังหวะจะโคนมากกว่าด้วย
ถ้าคุณยังไม่มีซีดีชุดนี้และคุณไม่ได้เป็นนักฟังระดับออดิโอไฟล์.. ขอเน้นว่าถ้าคุณไม่ได้ต้องการคุณภาพเสียงที่ดีที่สุดก็เลือกซื้อแผ่นทองแผ่นนี้ไปดีกว่า มีลายเซ็นต์ด้วย แต่ถ้าคุณมีแผ่นอเมริกาอยู่ในมืออยู่แล้วก็ไม่ต้องไปสนใจแผ่นทองแผ่นนี้ให้เสียอารมณ์ (forget it.!) นอกเสียจากว่าคุณอยากจะสะสมแผ่นที่มีลายเซ็นของนักดนตรีทั้ง 5 คนไว้ นั่นก็อีกเรื่องนึง
_inner+cover.jpg) |
| ปกในของเวอร์ชั่นแผ่นทอง 24K |
ขอฝากอีกหน่อยสำหรับผู้ที่ต้องการฟังเพลงจากอัลบั้มชุดนี้ให้ได้เสียงที่ดีที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีทางเลือกอยู่สองทาง ทางแรกสำหรับคนที่ใช้ระบบเสียงสเตริโอ ผมแนะนำให้ซื้อแผ่นซีดีของสังกัด Geffen Records (เบอร์แผ่น GEFD 24725) ที่ผลิตในประเทศอเมริกามาฟัง ส่วนอีกทางหนึ่งสำหรับคนที่มีระบบเสียงเซอร์ราวนด์ 5.1 Ch (หรือ 7.1 Ch ก็ได้) ผมแนะนำให้ฟังจากแผ่นดีวีดี โดยใช้เครื่องเล่นดีวีดีเล่นแผ่นแล้วเอาสัญญาณดิจิตัลออกมาผ่านการถอดรหัสด้วยภาคดีโค๊ดเดอร์ของแอมป์เซอร์ราวนด์ แล้วขยายออกลำโพงเซอร์ราวนด์ ซึ่งวีธีนี้จะได้เสียงที่ดีที่สุดจากอัลบั้มชุดนี้ เพราะเสียงของอัลบั้มชุดนี้บนแผ่นดีวีดีจะบันทึกมาดีกว่าบนแผ่นซีดีพอสมควรทีเดียวครับ ทั้งในแง่ของจำนวนแชนเนลและเรโซลูชั่น (หรือความละเอียด) ของสัญญาณ.
………………………………………
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น